แชร์

"เนื้อขาว VS เนื้อแดง" กินแบบไหนดีกว่ากัน?

อัพเดทล่าสุด: 23 ก.ย. 2024
3266 ผู้เข้าชม


การตัดสินใจว่าเนื้อขาวหรือเนื้อแดง "ดีกว่า" ขึ้นอยู่กับเป้าหมายด้านสุขภาพของแต่ละคน ความชอบด้านอาหาร และความต้องการทางโภชนาการเฉพาะของแต่ละคน เนื้อสัตว์ทั้งสองประเภทมีข้อดีเฉพาะตัวและสามารถเป็นส่วนหนึ่งของอาหารเพื่อสุขภาพได้

เราจะมาเจาะลึกถึงแหล่งที่มา การแยกประเภท ข้อมูลโภชนาการ และคุณประโยชน์เกี่ยวกับเนื้อขาวและเนื้อแดงกัน

 

แหล่งที่มา

 

เนื้อขาว

  • ไก่: หนึ่งในเนื้อขาวที่พบได้ทั่วไปและหลากหลายที่สุด
  • ปลา: ทุกประเภท รวมทั้งปลาแซลมอน ปลาคอด ปลานิล ฯลฯ
  • อาหารทะเล: กุ้ง ปู กุ้งก้ามกราม และหอยอื่นๆ
  • เนื้อหมูสันใน: เนื้อหมูส่วนสันในถือเป็นเนื้อสีขาวเนื่องจากเป็นเนื้อไม่ติดมัน แต่โดยทั่วไป เนื้อหมูหลายส่วนจัดอยู่ในประเภทเนื้อแดง

 

 

เนื้อแดง

  • เนื้อวัว: เนื้อทุกส่วน รวมทั้งสเต็ก เนื้อย่าง และเนื้อบด
  • เนื้อหมู: เนื้อหมูส่วนใหญ่ รวมทั้งเนื้อสับ แฮม และเบคอน
  • เนื้อแกะ: เนื้อแกะทั้งหมด รวมทั้งเนื้อสับ ขา และเนื้อแกะบด
  • แพะ: อาหารหลักในอาหารหลากหลายทั่วโลก
  • เป็ด: จัดเป็นเนื้อแดงเนื่องจากมีไมโอโกลบิน
  • ห่าน: เช่นเดียวกับเป็ดก็ถือว่าเป็นเนื้อแดง

 

การแยกประเภท

การจำแนกเนื้อสัตว์เป็นสีขาวหรือสีแดงขึ้นอยู่กับชนิดของสัตว์และปริมาณไมโอโกลบินในกล้ามเนื้อเป็นหลัก ไมโอโกลบินเป็นโปรตีนที่พบในเซลล์กล้ามเนื้อที่จับกับออกซิเจนและธาตุเหล็ก ทำให้กล้ามเนื้อมีสี

แหล่งที่มาของสัตว์

  • เนื้อขาว: โดยทั่วไปจะมาจากสัตว์ปีก เช่น ไก่ รวมถึงปลาส่วนใหญ่ สัตว์เหล่านี้มีเส้นใยกล้ามเนื้อที่ปรับให้เข้ากับกิจกรรมช่วงสั้นๆ และมีไมโอโกลบินน้อยกว่า
  • เนื้อแดง: โดยทั่วไปมาจากสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม เช่น เนื้อวัว เนื้อหมู เนื้อแกะ และเนื้อเป็ด กล้ามเนื้อของสัตว์เหล่านี้ถูกใช้เพื่อเพิ่มความอดทนมากขึ้น ส่งผลให้มีปริมาณไมโอโกลบินสูงขึ้นและมีสีเข้มขึ้น

ปริมาณไมโอโกลบิน

  • ไมโอโกลบินสูง: เนื้อแดงมีความเข้มข้นของไมโอโกลบินในเส้นใยกล้ามเนื้อสูงกว่า ซึ่งทำให้เนื้อมีสีแดงเข้มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับกล้ามเนื้อที่ใช้งานบ่อยและต้องการออกซิเจนมากขึ้น
  • ไมโอโกลบินต่ำ: เนื้อสีขาวมีระดับไมโอโกลบินต่ำ ส่งผลให้สีจางลง เป็นเรื่องปกติสำหรับกล้ามเนื้อที่ไม่ได้ใช้งานหนัก

การทำอาหาร

  • การเปลี่ยนแปลงพื้นผิว: เมื่อสุก เนื้อแดงมักจะยังคงเป็นสีเข้มหรือเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล ในขณะที่เนื้อสีขาวมักจะจางลงหรือยังคงซีดอยู่
  • เนื้อสัมผัสและปริมาณไขมัน: เนื้อแดงมักจะมีไขมันเป็นลายหินอ่อนมากกว่า ส่งผลให้เนื้อสัมผัสและรสชาติแตกต่างเมื่อเทียบกับเนื้อสีขาวไม่ติดมัน

ข้อยกเว้น

  • เนื้อหมู: บางส่วนของเนื้อหมู เช่น ส่วนสันใน อาจเรียกได้ว่าเป็นเนื้อขาว แต่การจัดประเภททางวิทยาศาสตร์จริงๆแล้วจัดว่าเป็นเนื้อแดง เนื่องจากมีปริมาณไมโอโกลบินสูงกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับสัตว์ปีกและปลา 
  • เป็ดและห่าน: แม้ว่าจะเป็นสัตว์ปีก แต่เป็ดและห่านก็จัดเป็นเนื้อแดง เนื่องจากกล้ามเนื้อของพวกมันถูกใช้อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มีปริมาณไมโอโกลบินที่สูงขึ้น

 

คุณประโยชน์จากเนื้อขาว

  • ไขมันอิ่มตัวและโคเลสเตอรอลต่ำกว่า: เนื้อขาว โดยเฉพาะเนื้อสัตว์ปีกและปลา มักมีไขมันอิ่มตัวและโคเลสเตอรอลน้อยกว่าเมื่อเทียบกับเนื้อแดง ทำให้เป็นทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพของหัวใจและการจัดการคอเลสเตอรอล
  • โปรตีนคุณภาพสูง: เนื้อขาวเป็นแหล่งโปรตีนไร้มันที่ดีเยี่ยม ซึ่งจำเป็นสำหรับการเจริญเติบโตและการซ่อมแซมกล้ามเนื้อ โดยไม่มีไขมันอิ่มตัวเพิ่มเติม
  • อุดมไปด้วยสารอาหารหลายชนิด: ปลาซึ่งเป็นเนื้อขาวชนิดหนึ่งมีกรดไขมันโอเมก้า 3 สูง ซึ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพของหัวใจ การทำงานของสมอง และการลดการอักเสบ
  • ปริมาณแคลอรี่ที่ต่ำกว่า: โดยทั่วไปแล้ว เนื้อขาวมีแคลอรี่น้อยกว่าเนื้อแดง จึงเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าสำหรับการควบคุมน้ำหนักและการอดอาหาร
  • ความเสี่ยงด้านสุขภาพที่ลดลง: การบริโภคเนื้อขาวช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคบางชนิดได้ เช่น มะเร็งลำไส้ใหญ่และโรคหัวใจ
  • ใช้งานได้หลากหลาย: เนื้อขาวสามารถนำมาใช้ในอาหารได้หลากหลาย และมักปรุงได้เร็วกว่าเนื้อแดง ทำให้เป็นตัวเลือกที่สะดวกสำหรับมื้ออาหาร

 

คุณประโยชน์จากเนื้อแดง

  • แหล่งที่มาของธาตุเหล็ก: เนื้อแดงเป็นแหล่งสำคัญของธาตุเหล็กฮีม ซึ่งร่างกายดูดซึมได้ง่ายกว่าเมื่อเทียบกับธาตุเหล็กที่ไม่ใช่ฮีมที่พบในอาหารจากพืช นี่เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับบุคคลที่มีแนวโน้มเป็นโรคโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก
  • วิตามินบีสูง: เนื้อแดงมีวิตามินบีในระดับสูง โดยเฉพาะวิตามินบี 12 ซึ่งจำเป็นต่อการทำงานของเส้นประสาทและการสร้าง DNA และเซลล์เม็ดเลือดแดง วิตามินบี 12 ซึ่งไม่สามารถพบตามธรรมชาติได้
  • ประกอบด้วยสังกะสีและซีลีเนียม: เป็นแหล่งสังกะสีที่ดี มีความสำคัญต่อการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน และซีลีเนียมซึ่งมีบทบาทสำคัญในการเผาผลาญและการทำงานของต่อมไทรอยด์
  • ให้โปรตีนครบถ้วน: เนื้อแดงมีโปรตีนครบถ้วนพร้อมด้วยกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อการทำงานของร่างกาย
  • มีส่วนช่วยในการเจริญเติบโตและบำรุงรักษากล้ามเนื้อ: โปรตีนคุณภาพสูงและกรดอะมิโนที่จำเป็นในเนื้อแดงมีประโยชน์ต่อการเจริญเติบโต การซ่อมแซม และการบำรุงรักษาของกล้ามเนื้อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่สำคัญสำหรับนักกีฬาและผู้สูงอายุ
  • ความเต็มอิ่มและรสชาติ: เนื้อแดงมักจะน่าพึงพอใจและมีรสชาติมากกว่า ทำให้เป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับการควบคุมอาหารและความชอบด้านอาหารหลายอย่าง

 

ความแตกต่างระหว่างเนื้อขาวและเนื้อแดงเป็นมากกว่าความชอบในการทำอาหาร เป็นการตัดสินใจที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ วิธีทำอาหาร แม้ว่าเนื้อขาว เช่น ไก่ และปลา จะมีข้อดีคือมีไขมันอิ่มตัวต่ำและมีสารอาหารสูง เช่น กรดไขมันโอเมก้า 3 แต่เนื้อแดงก็โดดเด่นด้วยธาตุเหล็ก วิตามินบี และความสามารถในการ ให้โปรตีนครบถ้วน


ท้ายที่สุดแล้ว ไม่มีคำตอบที่แน่ชัดว่าสิ่งใด "ดีกว่า" เนื่องจากจะแตกต่างกันไปตามแต่ละสถานการณ์ ความพอประมาณและความหลากหลายเป็นกุญแจสำคัญในอาหารทุกประเภท

 


บทความที่เกี่ยวข้อง
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy