เอบิโกะ Ebiko (えびこ) (エビコ) เป็นวัตถุดิบขึ้นชื่อในอาหารญี่ปุ่น โดยทั่วไปมักเข้าใจกันว่าเป็นไข่กุ้ง อย่างไรก็ตาม ณ ที่นี้ เราหมายถึงไข่จากปลาที่เรียกว่า 'ชิชาโมะ' (Shishamo) หรือที่เรียกว่าปลาสเมลต์(smelt) หรือปลาคาเปลิน(capelin)
ปลาชิชาโมะ
ปลาชิชาโมะมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า 'Spirinchus lanceolatus' เป็นปลาขนาดเล็กชนิดหนึ่งที่อยู่ในวงศ์ Osmeridae มีถิ่นกำเนิดในน่านน้ำชายฝั่งของญี่ปุ่นและส่วนอื่น ๆ ของเอเชียตะวันออก ปลาชิชาโมะมีรูปร่างเรียวยาวและมีสีเงินที่โดดเด่น
ชื่อ 'ชิชาโมะ' มาจากภาษาไอนุของชนพื้นเมืองในญี่ปุ่น ซึ่งแปลว่า "ปลาที่ตั้งท้องไข่ปลาจำนวนมาก"
ในประเทศญี่ปุ่น ชิชาโมะมีความสำคัญทางวัฒนธรรม โดยทั่วไปจะเสิร์ฟเป็นอาหารเรียกน้ำย่อยในช่วงฤดูใบไม้ร่วง เนื่องจากเป็นช่วงที่ปลาตั้งท้องไข่ปลา นอกจากนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งของอาหารเฉลิมฉลองสำหรับ "เทศกาลฤดูใบไม้ร่วงสำหรับพระจันทร์เต็มดวง" (สึกิมิ) ซึ่งเป็นประเพณีที่ชื่นชมความงามของดวงจันทร์
เอบิโกะ
เอบิโกะมาจากไข่ปลาชิชาโมะตัวเมีย ในช่วงฤดูวางไข่ ตั้งแต่ฤดูใบไม้ผลิถึงฤดูร้อน ปลาจะอพยพไปยังบริเวณน้ำกร่อยเพื่อวางไข่ และไข่จะถูกเก็บเกี่ยวเพื่อใช้ในการทำอาหาร หลังจากเก็บไข่ปลาแล้ว จะผ่านกระบวนการทำความสะอาดและขจัดสิ่งเจือปนหรือเยื่อหุ้มออก จากนั้นไข่ปลาจะถูกหมักเล็กน้อยเพื่อเพิ่มรสชาติและยืดอายุการเก็บรักษา ซึ่งมักจะผสมกับซอสถั่วเหลืองหรือเครื่องปรุงรสอื่น ๆ เล็กน้อยเพื่อเพิ่มรสชาติ เอบิโกะมีลักษณะเป็นทรงกลมขนาดเล็ก และมีเยื่อหุ้มชั้นนอกที่โปร่งใสเล็กน้อย
ประกอบอาหาร
เอบิโกะเป็นวัตถุดิบอเนกประสงค์ที่สามารถนำมาใช้ในอาหารต่างๆได้หลากหลาย ทั้งเพื่อเพิ่มรสชาติ เนื้อสัมผัส และความสวยงาม สามารถนำไปโรยบนนิกิริซูชิ ซาชิมิ สลัด ถ้วยข้าว หรือแม้แต่นำไปใส่ในซอสหรือน้ำสลัด เพื่อเพิ่มเนื้อสัมผัสกรุบกรอบและรสชาติให้อร่อยขึ้นได้
ประโยชน์ทางโภชนาการ
เอบิโกะเป็นแหล่งแหล่งโปรตีนที่ดีเยี่ยมและอุดมไปด้วยกรดไขมันจำเป็นโอเมก้า 3 ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าช่วยบำรุงหัวใจ มีวิตามินและแร่ธาตุจำนวนมาก รวมทั้งวิตามินดี บี12 และซีลีเนียม ซึ่งเป็นหนึ่งตัวเลือกที่ดีต่อสุขภาพอีกด้วย
สีของไข่กุ้งเอบิโกะ
แม้ว่าสีของไข่กุ้งเอบิโกะที่เห็นบ่อยที่สุดคือสีส้ม แต่ก็มีสีอื่นๆ ให้เลือกเช่นกัน สีที่ต่างกันนั้นเกิดขึ้นได้จากการเติมสีย้อมอาหารจากธรรมชาติหรือสีสังเคราะห์ในระหว่างกระบวนการผลิตไข่ปลา
ส่วนใหญ่แล้วสีที่ต่างกันมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มความน่าสนใจให้กับอาหาร ทำให้ดึงดูดสายตามากขึ้น
ทั้งนี้ สำหรับผู้ที่แพ้อาหารทะเลควรหลีกเลี่ยงก่อน เนื่องจากเอบิโกะทำมาจากอาหารทะเล และการรับประทานเอบิโกะในปริมาณที่พอเหมาะสามารถช่วยให้คุณค่าทางโภชนาการแก่ร่างกายได้