15 สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงหลังมื้ออาหาร

พฤติกรรมและกิจกรรมของเราหลังมื้ออาหารสามารถส่งผลต่อการย่อยอาหารและสุขภาพโดยรวมของเราได้อย่างมีนัยสำคัญ พฤติกรรมหลังมื้ออาหารเหล่านี้อาจนำไปสู่ความรู้สึกที่ไม่ดีได้ การดูดซึมสารอาหารที่ไม่ดี และปัญหาสุขภาพในระยะยาว เรามาเจาะลึกกิจกรรม 15 อย่างที่ควรหลีกเลี่ยงหลังกินอาหารกัน

1. อย่านั่งเป็นเวลานาน
แม้ว่าจะไม่ควรทำกิจกรรมที่ใช้แรงมากทันทีหลังมื้ออาหาร แต่ก็ไม่ควรนั่งนานเกินไป พฤติกรรมนั่งนิ่งๆ อาจทำให้ระบบเผาผลาญลดต่ำลงและส่งผลต่อระบบย่อยอาหาร แทนที่จะทำกิจกรรมเบาๆ เช่น การเดินสบายๆ หรือทำงานบ้าน จะช่วยให้ระบบย่อยอาหารดีขึ้นได้


2. อย่าเดินหนักหน่วงทันที
แม้ว่าการเดินเบา ๆ หลังจากมื้ออาหารผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมงจะสามารถช่วยย่อยอาหารได้ แต่การเดินอย่างหนักหน่วงทันทีหลังอาหารอาจส่งผลให้เกิดอาการไม่สบายท้องหรืออาหารไม่ย่อยได้ นี่เป็นเพราะร่างกายของเราต้องการเวลาเพื่อเริ่มกระบวนการย่อยอาหารนั่นเอง


3. อย่าแปรงฟันทันที
ทันทีหลังมื้ออาหาร โดยเฉพาะอาหารที่มีกรด ฟันของเราจะเปราะบางที่สุดในเวลานี้ การแปรงฟันจะทำให้กรดถูลึกเข้าไปในเคลือบฟัน ซึ่งเป็นชั้นนอกของฟัน ทันตแพทย์แนะนำให้รออย่างน้อย 30 นาทีหลังกินอาหารก่อนที่จะแปรงฟัน


4. อย่าข้ามของหวาน
นี่อาจฟังดูแปลกเพราะแผนการลดน้ำหนักหลายๆที่อาจแนะนำให้งดของหวาน อย่างไรก็ตาม หากเป็นผู้ที่ชอบของหวาน อาจพบว่าการห้ามตัวเองไม่ให้กินของหวาานเลยอาจส่งผลย้อนกลับ นำไปสู่ความอยากและการกินมากเกินไปในภายหลัง กุญแจสำคัญคือการควบคุมปริมาณ - ดาร์กช็อกโกแลตชิ้นเล็กๆ หรือผลไม้สักชิ้นพอหอมปากหอมคอ สามารถลดความอยากอาหารหวานได้


5. หลีกเลี่ยงการบริโภคเกลือหรือน้ำตาลมากเกินไป
แม้ว่าของหวานเพียงเล็กน้อยจะดี แต่การกินของว่างรสเค็มหรือหวานหลังมื้ออาหารอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพ เช่น ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ และเบาหวานได้


6. อย่ากินผลไม้ทันทีหลังมื้ออาหาร
หลายๆคนยังเข้าใจกันอยู่ว่า ผลไม้ควรกินหลังมื้ออาหารเพื่อล้างปาก แต่จริงๆแล้วควรกินก่อนมื้ออาหารมากกว่าหลังอาหาร เนื่องจากผลไม้ต้องการเอนไซม์ที่แตกต่างกันในการย่อย นอกจากนี้ผลไม้ยังย่อยได้เร็วกว่าอาหารอื่นๆ มาก และหากกินหลังมื้ออาหาร มันจะอยู่ในกระเพาะอาหารนานขึ้น อาจทำให้เกิดแก๊ส ท้องอืด ปวดท้อง หรือรู้สึกไม่สบายได้


7. หลีกเลี่ยงเสื้อผ้ารัดรูป
เสื้อผ้าที่รัดแน่นจะยิ่งไปกดทับกระเพาะอาหาร ซึ่งจะดันอาหารกลับขึ้นไปในหลอดอาหาร สิ่งนี้อาจทำให้เกิดอาการเสียดท้องหรือกรดไหลย้อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเพิ่งกินอาหารมื้อใหญ่มา


8. อย่าดื่มน้ำเย็นมาก
การดื่มน้ำเย็นปริมาณมากทันทีหลังมื้ออาหารอาจทำให้การย่อยอาหารช้าลงและขัดขวางการดูดซึมสารอาหาร เพราะจะทำให้ไขมันจากอาหารจับตัวเป็นก้อน ทำให้ร่างกายย่อยสลายได้ยากมากขึ้น


9. อย่าดื่มชาหรือกาแฟทันที
เครื่องดื่มเหล่านี้มีสารอย่างแทนนินและคาเฟอีน ซึ่งอาจขัดขวางการดูดซึมธาตุเหล็ก นี่เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ขาดธาตุเหล็กหรือมีข้อจำกัดด้านอาหารที่จำกัดปริมาณธาตุเหล็ก


10. อย่าดื่มแอลกอฮอล์ทันที
แอลกอฮอล์สามารถยับยั้งการสลายอาหารในกระเพาะอาหารและขัดขวางการดูดซึมสารอาหารในลำไส้ นอกจากนี้ การดื่มแอลกอฮอล์หลังมื้ออาหารยังเพิ่มระดับความเข้มข้นของแอลกอฮอล์ในเลือดได้มากกว่าการดื่มขณะท้องว่างอีกด้วย


11. อย่าออกกำลังกายทันที
บางคนเชื่อว่าการออกกำลังกายทันทีหลังกินอาหารจะช่วยลดน้ำหนักได้ แต่นั่นไม่ใช่เลย การออกกำลังกายหลังกินอาหารจะยิ่งทำให้อาหารไม่ย่อย ไม่สบายตัว อึดอัด และส่งผลต่อการดูดซึมสารอาหาร เนื่องจากร่างกายต้องส่งเลือดไปยังกล้ามเนื้อแทนระบบย่อยอาหารนั่นเอง


12. หลีกเลี่ยงการว่ายน้ำ
เช่นเดียวกับการออกกำลังกาย การออกกำลังกายอย่างหนักและการว่ายน้ำสามารถเปลี่ยนเส้นทางการไหลเวียนของเลือดจากระบบย่อยอาหารไปยังแขนขา ทำให้กระบวนการย่อยอาหารช้าลง ซึ่งอาจนำไปสู่การเป็นตะคริวได้


13. อย่าเพิ่งอาบน้ำทันที
การอาบน้ำทันทีหลังกินอาหารเป็นการเบี่ยงเบนการไหลเวียนของเลือดไปยังผิวหนังเพื่อควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย แทนที่จะช่วยในเรื่องการย่อยอาหาร


14. หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ตึงเครียด
ความเครียดอาจรบกวนการย่อยอาหารได้ ซึ่งการย่อยอาหารจะช้าลงหรือหยุดลง ดังนั้นกิจกรรมที่ผ่อนคลายสามารถช่วยการย่อยอาหารได้ดีขึ้นกว่า


15. อย่าเพิ่งเข้านอนทันที
การนอนราบหลังมื้ออาหารสามารถเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคกรดไหลย้อน ซึ่งกรดในกระเพาะอาหารจะไหลย้อนขึ้นไปในหลอดอาหาร เนื่องจากแรงโน้มถ่วงจะให้ท้องอยู่ในที่ที่ไม่เหมาะสม ผลที่ตามมาคืออาการเสียดท้องและกรดไหลย้อนนั่นเอง

การทำความเข้าใจว่าควรหลีกเลี่ยงอะไรหลังจากรับประทานอาหารเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการรักษาระบบย่อยอาหารให้แข็งแรงและช่วยการดูดซึมสารอาหารที่เหมาะสม การพักผ่อนกับการทำกิจกรรมเบา ๆ และการตระหนักถึงนิสัย เช่น การแปรงฟัน การเข้านอน หรือการอาบน้ำ สิ่งสำคัญไม่แพ้กันคือต้องคำนึงถึงสิ่งที่เราบริโภคหลังมื้ออาหาร เช่น การดื่มเครื่องดื่มบางชนิดหรือการกินของหวานมากเกินไป