แชร์

ปลาแมกเคอเรล 5 ชนิด ยอดนิยมในอาหารญี่ปุ่น

อัพเดทล่าสุด: 4 ก.ย. 2024
1300 ผู้เข้าชม
แมกเคอเรล, Mackerel, ซาบะ, Saba, ชิเมะซาบะ, Shime Saba, อาจิ, Aji, ซาวาระ, Sawara, ซัมมะ, Sanma ขายปลีก ขายส่ง Bigfridgeboy


ปลาแมกเคอเรลเป็นปลาที่ได้รับความนิยมและมีนำไปประกอบอาหารได้หลากหลายในอาหารญี่ปุ่น มีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ประเภทปลาแมกเคอเรลที่รู้จักกันดีที่สุดที่ใช้ในอาหารญี่ปุ่น เช่น ซาบะ (Saba), ชิเมะซาบะ (Shime Saba), อาจิ (Aji), ซาวาระ (Sawara) และ ซัมมะ (Sanma) มักนิยมรับประทานเป็นซูชิและซาซิมิ รวมถึงอาหารปรุงสุกต่างๆ เช่น ย่าง และทอดกรอบ ซึ่งแต่ละชนิดก็มีรสชาติและเนื้อสัมผัสเฉพาะตัวที่แตกต่างกัน

 

 

Saba (Mackerel): 鯖 (さば)
ปลาซาบะหรือปลาแมกเคอเรลเป็นปลาที่นิยมใช้ในอาหารญี่ปุ่น โดยเฉพาะในอาหารประเภทซูชิและซาชิมิ ปลาซาบะโดดเด่นในเรื่องรสชาติที่เค็มๆ เข้มข้นและเนื้อสัมผัสมันๆ ซึ่งทำให้เป็นตัวเลือกที่อร่อยและไม่เหมือนใครสำหรับผู้ที่ชื่นชอบซูชิและซาชิมิ

ในซูชิ ปลาซาบะมักเสิร์ฟเป็น "นิกิริ" ซึ่งประกอบด้วยปลาหนึ่งชิ้นวางบนข้าวอบน้ำส้มสายชู ซาบะนิกิริมักจะบ่มด้วยเกลือหรือน้ำส้มสายชูเล็กน้อย และอาจโรยหน้าด้วยขิงขูดหรือต้นหอมเพื่อเพิ่มรสชาติอุมามิกลมกล่อม

ในการทำซาชิมิ จะแล่ปลาซาบะเป็นชิ้นบาง ๆ และเสิร์ฟแบบดิบ ๆ โดยไม่มีข้าว และมักจะมาพร้อมกับซอสโชยุ วาซาบิ และขิงดอง ซึ่งช่วยเพิ่มรสชาติและตัดความมันของเนื้อปลาได้

ปลาซาบะมีปริมาณไขมันสูงซึ่งเป็นแหล่งของกรดไขมันโอเมก้า 3 เป็นที่รู้กันดีว่ามีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายประการ เช่น ลดการอักเสบและส่งเสริมสุขภาพของหัวใจ

ปลาแมกเคอเรลจากแอตแลนติกและแปซิฟิกแม้ว่าจะมีลักษณะและรสชาติที่คล้ายคลึงกัน แต่ก็มีความแตกต่างเล็กน้อย ดังนี้

ชื่อวิทยาศาสตร์

  • ปลาแมกเคอเรลแอตแลนติก (Scomber scombrus) อยู่ในวงศ์ Scombridae เช่นเดียวกับปลาแมกเคอเรล ปลาทูน่า และปลาโอชนิดอื่นๆ
  • ปลาแมกเคอเรลแปซิฟิก (Scomber japonicus) หรือที่รู้จักในชื่อ Chub mackerel หรือ Blue mackerel เป็นสัตว์ต่างสายพันธุ์ในวงศ์เดียวกัน

ถิ่นกำเนิด

  • ปลาแมกเคอเรลแอตแลนติก (Atlantic mackerel) พบได้ในมหาสมุทรแอตแลนติก ส่วนมากพบตามแนวชายฝั่งของยุโรปและอเมริกาเหนือ
  • ปลาแมกเคอเรลแปซิฟิก (Pacific Mackerel) อาศัยอยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิก และพบได้ทั่วไปตามแนวชายฝั่งของเอเชียและอเมริกาเหนือ

ขนาดและรูปร่าง

  • ปลาแมกเคอเรลแอตแลนติก มักจะตัวใหญ่กว่า โดยมีความยาวได้ถึง 16-20 นิ้ว (40-50 ซม.) ในขณะที่ปลาแมกเคอเรลแปซิฟิกมักจะโตได้ถึง 14-18 นิ้ว (35-45 ซม.)
  • ทั้งสองชนิดมีรูปร่างและสีคล้ายกัน โดยมีหลังสีน้ำเงินเข้มหรือสีน้ำเงินแกมเขียว และท้องสีขาวเงิน มีเส้นหรือจุดที่เป็นคลื่นสีเข้มบนหลัง อย่างไรก็ตาม โดยทั่วไปแล้วปลาทูแอตแลนติกจะมีเส้นหยักที่เด่นชัดและสีเข้มกว่า

ประกอบอาหาร

  • ทั้งปลาแมกเคอเรลแอตแลนติกและปลาแมกเคอเรลแปซิฟิกมีรสชาติที่เข้มข้นและเนื้อสัมผัสมันๆเนื่องจากมีไขมันสูง ทั้งสองอย่างนี้ใช้ในอาหารต่างๆ ทั่วโลก รวมถึงอาหารญี่ปุ่น ซูชิและซาชิมิ รสชาติของปลาทั้งสองชนิดค่อนข้างคล้ายกัน แต่บางคนอาจรู้สึกว่ารสชาติและเนื้อสัมผัสแตกต่างกันเล็กน้อย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปลาแต่ละชนิดและวิธีการปรุง

โดยสรุป ปลาแมกเคอเรลแอตแลนติกและแปซิฟิกเป็นปลาสองชนิดที่อยู่ในวงศ์เดียวกัน แตกต่างกันที่ ขนาด และรูปลักษณ์เล็กน้อย รสชาติและการใช้ทำอาหารคล้ายกัน ทำให้ทั้งคู่เหมาะสำหรับอาหารอย่างซูชิและซาชิมิเหมือนกัน

 

 

Shime Saba (Cured Mackerel): 締め鯖 (しめさば)
ชิเมะซาบะ หรือก็คือ ซาบะหมัก เป็นการหมักแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่นที่ใช้การบ่มปลาด้วยเกลือและน้ำส้มสายชู กระบวนการนี้ไม่เพียงแต่เพิ่มรสชาติที่เปรี้ยวอ่อนๆเป็นเอกลักษณ์เท่านั้น แต่ยังช่วยให้เก็บได้นานขึ้นและช่วยเนื้อสัมผัสที่แน่นขึ้นด้วย ชิเมะซาบะมักใช้เป็นท็อปปิ้งสำหรับซูชิและซาชิมิในอาหารญี่ปุ่น วิธีการบ่มปลาพื้นฐาน

  1. แล่เนื้อ
    ขั้นแรก แล่ปลาและเลาะกระดูก ก้างออก จะได้เนื้อปลาสะอาด 2 ชิ้น
  2. หมักเกลือ
    เนื้อปลาจะถูกหมักเคลือบด้วยเกลือให้ทั่วและทิ้งไว้ให้แข็งตัวเป็นระยะเวลาหนึ่ง โดยปกติจะอยู่ระหว่าง 30 นาทีถึง 2 ชั่วโมง กระบวนการนี้จะดึงความชื้นส่วนเกินออกและทำให้เนื้อแน่นขึ้น
  3. ล้างออก
    หลังจากผ่านกระบวนการหมักเกลือแล้ว จะล้างเนื้อปลาให้สะอาดด้วยน้ำเย็นเพื่อขจัดเกลือส่วนเกินออก
  4. น้ำส้มสายชู
    จากนั้น เนื้อปลาที่ล้างแล้วนำไปจุ่มลงในส่วนผสมของน้ำส้มสายชูข้าว (หรือน้ำส้มสายชูอ่อนๆ อื่นๆ) และสารให้ความหวาน เช่น น้ำตาลหรือมิริน ประมาณ 30 นาทีถึงสองสามชั่วโมง ขึ้นอยู่กับรสชาติที่ต้องการ
  5. พัก
    เมื่อบ่มเสร็จแล้ว นำออกจากส่วนผสมของน้ำส้มสายชู ซับให้แห้ง และปล่อยให้พักไว้ในตู้เย็นสัก 2-3 ชั่วโมงหรือข้ามคืนเพื่อให้รสชาติเข้ากันได้ดีขึ้น
  6. เสิร์ฟ
    จากนั้นนำมาหั่นเป็นชิ้นๆและเสิร์ฟเป็นซูชิหรือซาซิมิ โดยทั่วไปจะมาพร้อมกับซอสโชยุ วาซาบิ และขิงดอง

ชิเมะซาบะมีรสชาติที่แตกต่างจากซาบะสด จะโดดเด่นด้วยรสเปรี้ยวเล็กน้อยซึ่งเป็นผลมาจากการบ่มด้วยน้ำส้มสายชู กระบวนการบ่มยังช่วยให้เนื้อปลาแน่นขึ้นเมื่อเทียบกับปลาซาบะสด

 

 

Aji (Horse Mackerel): 鯵 (あじ)
ปลาอาจิ (Trachurus japonicus) เป็นปลาขนาดเล็กชนิดหนึ่งที่พบในน่านน้ำของแปซิฟิกตะวันตกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะใกล้ชายฝั่งของญี่ปุ่น เกาหลี และจีน เป็นที่นิยมในอาหารญี่ปุ่น โดยเฉพาะซูชิและซาซิมิ จริงๆ แล้วชื่อ "อาจิ" หมายถึงปลาไม่กี่ชนิดในวงศ์ปลาคาร์รังแด (Carangidae) แต่ชนิด Trachurus japonicus นิยมใช้เป็นอาหารกันมากที่สุดในญี่ปุ่น

ปลาอาจิมีขนาดเล็กและเรียวกว่าปลาแมกเคอเรลทั่วไป มีหลังสีเขียวอมฟ้า ท้องสีขาวเงิน และมีจุดดำเล็ก ๆ จำนวนหนึ่งตามเส้นข้างตัว ปลาอาจิสามารถโตได้ยาวถึง 14 นิ้ว (35 ซม.)

ปลาอาจิมีรสชาติที่แตกต่างจากปลาปลาซาบะ อย่างชัดเจน ปลาอาจิจะมีรสชาติที่อ่อนๆ หวานเล็กน้อย และเนื้อแน่น แต่นุ่ม ปลาอาจิสามารถประกอบอาหารญี่ปุ่นทั่วไปได้ ดังนี้

  • Aji Sashimi: ปลาอาจิดิบแล่บาง ๆ รสชาติหวานอ่อนๆ เสิร์ฟพร้อมโชยุ วาซาบิ ขิงหรือต้นหอมสับ
  • Aji Nigiri: ซูชิปลาอาจิที่ปรุงด้วยน้ำส้มสายชู มักจะโรยหน้าด้วยขิงขูด ต้นหอม หรือวาซาบิเล็กน้อย
  • Aji Tataki: ปลาอาจิเบิร์นไฟเล็กน้อย เสิร์ฟพร้อมซอสโชยุรสเปรี้ยวหรือซอสพอนซึ
  • Aji no Hiraki: ปลาอาจิย่างเนยปรุงรสด้วยเกลือหรือซีอิ๊วขาว

ปลาอาจิยังใช้ในอาหารญี่ปุ่นอื่นๆ เช่น เทมปุระ หรือเคี่ยวในซอสต่างๆได้ ปลาอาจิเป็นปลาอเนกประสงค์ที่สามารถใช้ในการทำอาหารต่างๆได้มากมาย รสชาติที่ค่อนข้างอ่อนของปลาทำให้เป็นที่ดึงดูดใจของใครหลายๆคน

 

 

Sawara (Spanish Mackerel): 鰆 (さわら)
ปลาซาวาระ หรือปลาแมกเคอเรลสเปน (Scomberomorus commerson) เป็นปลาแมกเคอเรลสายพันธุ์ใหญ่ที่พบในภูมิภาคอินโดแปซิฟิกและได้รับความนิยมสูงในอาหารญี่ปุ่นไม่แพ้กัน ปลาแมกเคอเรลจากสเปนขึ้นชื่อเรื่องเนื้อนุ่ม สีขาวอมชมพู และรสชาติละมุนอร่อย เป็นอาหารยอดนิยมสำหรับทำซูชิ ซาชิมิ รวมถึงอาหารปรุงสุกประเภทอื่นๆ

ซาวาระ มีขนาดใหญ่กว่าทั้งซาบะและอาจิ โดยมีรูปร่างที่ยาวกว่า ที่หลังเป็นสีน้ำเงินเข้มหรือน้ำเงินอมเขียว ส่วนท้องเป็นสีขาวเงิน ร่างกายประดับด้วยจุดสีบรอนซ์หรือสีเหลืองสองสามแถวตามด้านข้าง ปลาซาวาระสามารถโตได้ถึง 39 นิ้ว (100 ซม.) ปลาซาวาระสามารถประกอบอาหารญี่ปุ่นทั่วไปได้ ดังนี้

  • Sawara Sashimi: ปลาซาวาระสไลซ์บางเสิร์ฟพร้อมโชยุ วาซาบิ และขิงดอง รสชาติที่นุ่มนวลและเนื้อสัมผัสที่ละเอียดอ่อนของปลา ทำให้เป็นตัวเลือกที่ดีทีเดียวสำหรับทำซาชิมิ
  • Sawara Nigiri: ซูชิหน้าปลาซาวาระ ที่ปรุงด้วยน้ำส้มสายชู ทาด้วยซอสโชยุหรือโรยหน้าด้วยขิงขูดและวาซาบิเล็กน้อย
  • Sawara Teriyaki: ปลาซาวาระย่าง เคลือบด้วยซอสเทอริยากิ เสิร์ฟพร้อมข้าวร้อนๆและผักเคียง อร่อยสุดๆ
  • Sawara Shioyaki: ปลาซาวาระย่างเกลือ เสิร์ฟพร้อมกับหัวไชเท้าขูดและมะนาวฝานหนึ่งเสี้ยว ช่วยตัดรสชาติได้ดี
  • Sawara no Misozuke: ปลาซาวาระในซอสมิโซะแล้วนำไปย่างหรือเบิร์นไฟ ทำให้ได้อาหารรสเข้มข้น กลมกล่อม และออกหวานเล็กน้อย

แม้ว่าปลาซาวาระจะไม่มีไขมันมากเท่าปลาแมกเคอเรลพันธุ์อื่นๆ เช่น ปลาซาบะ แต่ก็ยังเป็นแหล่งที่ดีของกรดไขมันโอเมก้า 3 และสารอาหารที่จำเป็นอื่นๆ ด้วยรสชาติที่นุ่มนวลและนำไปใช้ได้หลากหลายทำให้เป็นปลาที่นิยมสำหรับอาหารญี่ปุ่นมากทีเดียว

 

 

Sanma (Mackerel pike): 秋刀魚 (さんま)
ปลาซัมมะหรือปลาแมกเคอเรลไพค์ (Cololabis saira) หรือชื่อ ปลาซัวรีแปซิฟิก เป็นปลาขนาดเล็ก รูปร่างเรียวยาว พบในมหาสมุทรแปซิฟิกเหนือ เป็นที่นิยมอย่างสูงในอาหารญี่ปุ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเดือนกันยายน ซึ่งเป็นช่วงที่มีรสชาติและปริมาณไขมันสูงที่สุด ปลาซัมมะมีรสชาติความมันเล็กน้อย ทำให้เป็นที่ชื่นชอบของผู้ที่ชื่นชอบอาหารทะเล

ปลาซัมมะเป็นปลาตัวเล็กเรียวที่มีรูปร่างยาว และแคบกว่าเมื่อเทียบกับปลาแมกเคอเรลพันธุ์อื่นๆ มีหลังสีเขียวอมฟ้า ท้องสีขาวเงิน และมีจุดดำเล็ก ๆ เรียงเป็นแถวตามเส้นข้างตัว ปลาซัมมะสามารถโตได้ถึง 18 นิ้ว (45 ซม.) ปลาซัมมะสามารถประกอบอาหารญี่ปุ่นทั่วไปได้ ดังนี้

  • Sanma Shioyaki: เป็นวิธีการปรุงปลาซัมมะแบบดั้งเดิมและได้รับความนิยมมากที่สุด โดยนำปลาทั้งตัวไปหมักเกลือแล้วย่างบนเตาถ่าน ผิวด้านนอกจะกรอบในขณะที่เนื้อด้านในยังคงความชุ่มชื้นและรสชาติ มักเสิร์ฟพร้อมหัวไชเท้าขูด มะนาวฝาน และข้าวหนึ่งถ้วย
  • Sanma Sashimi: ปลาซัมมะสามารถกินแบบดิบๆ แล่บางๆ และเสิร์ฟพร้อมซอสโชยุ วาซาบิ และขิงดอง รสชาติเข้มข้นและเนื้อสัมผัสมันเล็กน้อยสามารถเข้าถึงผู้คนได้ง่าย
  • Sanma Nitsuke: ปลาซัมมะเคี่ยวในส่วนผสมของซอสถั่วเหลือง สาเก มิริน น้ำตาล และขิง ทำให้ได้เนื้อสัมผัสที่นุ่มและมีรสชาติด้วยซอสรสหวานและเผ็ดร้อนเล็กน้อย
  • Sanma no Nanbanzuke: นำปลาซัมมะไปทอดก่อน จากนั้นนำไปหมักในส่วนผสมของน้ำส้มสายชู ซอสถั่วเหลือง น้ำตาล และผักต่างๆ เช่น หัวหอมหั่น แครอท และพริก ทำให้ได้เมนูที่มีรสติดเปรี้ยวและสดชื่น พร้อมๆกัน
  • Sanma Tempura: ปลาซัมมะสามารถนำไปทอดด้วยแป้งเทมปุระเบา ๆ จนเหลืองกรอบได้ โดยปกติจะเสิร์ฟพร้อมกับน้ำจิ้มเทนสึยุหรือโรยเกลือ

ซัมมะอุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 วิตามิน และแร่ธาตุต่างๆ ทำให้เป็นปลาอีกหนึ่งทางเลือกที่มีคุณค่าทางโภชนาการนอกเหนือจากรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ รสชาติที่โดดเด่นและการนำไปทำอาหารได้หลากหลาย ทำให้เป็นปลาที่น่าสนใจในอาหารญี่ปุ่นมาก

สรุปสั้นๆ

  • ปลาซาบะหรือปลาแมกเคอเรล มีชื่อเสียงในด้านรสชาติที่เข้มข้น เค็มและมันๆ มักใช้ในซูชิ ซาชิมิ
  • ชิเมะซาบะเป็นปลาซาบะที่ผ่านการบ่ม ทำโดยการหมักด้วยเกลือและน้ำส้มสายชู ทำให้ได้รสชาติที่เปรี้ยวขึ้นและเนื้อสัมผัสที่แน่นขึ้น อร่อยไปอีกแบบ
  • ปลาอาจิ เป็นปลาที่มีขนาดเล็กกว่า มีรสหวานเล็กน้อย เนื้อนุ่ม มักนำมาทำซูชิ ซาชิมิ และอาหารทอด ย่างหรือเซียร์
  • ปลาซาวาระ เด่นในเรื่องเนื้อสีขาวอมชมพู นุ่ม รสชาติอ่อน เป็นที่นิยมสำหรับซูชิ ซาชิมิ และอาหารปรุงสุกต่างๆ เช่น เทอริยากิหรือชิโอยากิ (ย่างเกลือ)
  • สุดท้าย ปลาซัมมะ เป็นปลาที่มีไขมันเล็กน้อยและมีรสชาติที่โดดเด่น นิยมรับประทานในช่วงเดือนกันยายน ใช้ในอาหารอื่นๆได้ เช่น ชิโอยากิ นิซึเกะ (เคี่ยวในซอสถั่วเหลือง) และทอดเทมปุระ

ปลาแมกเคอเรลแต่ละชนิดเหล่านี้ ให้รสชาติและเนื้อสัมผัสที่หลากหลาย ช่วยเพิ่มความอร่อยที่ไม่ซ้ำกัน และนิยมมากในอาหารญี่ปุ่น

บทความที่เกี่ยวข้อง
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy