เนื้อแกะเป็นมรดกทางอาหารของประเทศออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ทั้งสองประเทศมีชื่อเสียงในด้านการผลิตเนื้อแกะ ซึ่งเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกในด้านเนื้อแกะคุณภาพสูงและรสชาติที่โดดเด่น แต่เนื้อแกะออสเตรเลียแตกต่างจากเนื้อแกะนิวซีแลนด์อย่างไร? เราจะมาไขรายละเอียดความแตกต่างของของเนื้อแกะออสเตรเลียและเนื้อแกะนิวซีแลนด์กัน
เลี้ยงด้วยหญ้าหรือธัญพืช (Grass-Fed & Grain-Fed)
• ลูกแกะออสเตรเลียมีทั้งแบบเลี้ยงด้วยหญ้า(grass-fed) และธัญพืช(grain-fed) ขึ้นอยู่กับวิธีการเลี้ยงของแต่ละฟาร์ม ถ้าบริเวณที่เลี้ยงมีหญ้าเป็นส่วนน้อย จะให้ธัญพืชเป็นอาหารแทน ทำให้ได้รสชาติที่อ่อนกว่าลูกแกะที่กินหญ้า
• ลูกแกะนิวซีแลนด์มีชื่อเสียงในด้านเนื้อแกะที่เลี้ยงด้วยหญ้า(grass-fed) ด้วยสภาพอากาศที่อบอุ่นทำให้สามารถเล็มหญ้าได้ตลอดทั้งปี ซึ่งส่งผลอย่างมากต่อคุณภาพของเนื้อแกะ ทำให้ได้รสชาติที่เข้มข้น และชุ่มฉ่ำ
สายพันธุ์
• ออสเตรเลียเป็นถิ่นกำเนิดของแกะหลากหลายสายพันธุ์ เช่น Merino, Dorper และ Suffolk สายพันธุ์ของแกะก็มีผลต่อรสชาติและเนื้อสัมผัสของเนื้อแกะ โดยบางสายพันธุ์จะให้เนื้อสัมผัสนุ่มกว่า
• นิวซีแลนด์เลี้ยงแกะสายพันธุ์ Romney และ Perendale เป็นหลัก ซึ่งเหมาะกับสภาพอากาศและภูมิประเทศของประเทศ สายพันธุ์เหล่านี้มีเนื้อนุ่มและมีรสชาติเข้มข้น
รสชาติ
• เนื้อแกะออสเตรเลีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งพันธุ์ที่เลี้ยงด้วยเมล็ดพืช(grain-fed) มีรสชาติที่อ่อนกว่า ข้อดีคือทำให้เป็นเนื้อสัตว์อเนกประสงค์ที่สามารถเข้าได้กับอาหารหลายๆชนิด ปรุงรสชาติเองได้มากขึ้น
• เนื้อแกะนิวซีแลนด์มีรสชาติที่เข้มข้น หอมหวาน ซึ่งมาจากการเลี้ยงด้วยหญ้า(grass-fed) ของลูกแกะ ใครที่ชอบรสชาติแกะชัดๆ ก็ต้องสายพันธุ์จากนิวซีแลนด์
โดยทั่วไป เนื้อแกะที่เลี้ยงด้วยหญ้าจะมีรสชาติที่เข้มข้นมากกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากลูกแกะถูกเชือดตั้งแต่อายุยังน้อย ส่วนลูกแกะที่เลี้ยงด้วยธัญพืชมักจะมีรสชาติที่อ่อนกว่าเมื่อเทียบกับแบบที่เลี้ยงด้วยหญ้า แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะมีรสชาติที่อ่อนเกินไป เพียงแต่มีความแตกต่างกัน
ความนุ่ม
• เนื้อแกะออสเตรเลีย อาจมีเนื้อสัมผัสที่เฟิร์มแน่นกว่าเล็กน้อย แต่ก็ยังคงความนุ่มไว้อยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นอาหารที่เลี้ยงด้วยธัญพืช(grain-fed) เนื้อสัมผัสที่เฟิร์มกว่าสามารถประกอบอาหารได้หลากหลาย
• เนื้อแกะนิวซีแลนด์ขึ้นชื่อเรื่องความนุ่มอยู่แล้ว เนื่องจากลูกแกะจะถูกเชือดตั้งแต่อายุยังน้อย ความนุ่มของเนื้อบวกกับรสชาติที่เข้มข้นทำให้เป็นตัวเลือกระดับพรีเมี่ยมสำหรับหลาย ๆ คน
ลายไขมัน
• เนื้อแกะออสเตรเลีย โดยเฉพาะชนิดที่เลี้ยงด้วยธัญพืช(grain-fed) มักจะมีลายไขมันแทรกมากกว่า ทำให้ได้รสชาติเข้มข้นและฉ่ำกว่าแบบที่เลี้ยงด้วยหญ้า(grass-fed) ระดับของลายไขมันอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสายพันธุ์และอาหารที่ลูกแกะได้รับ
• เนื้อแกะนิวซีแลนด์ซึ่งเลี้ยงด้วยหญ้า(grass-fed)เป็นหลัก มักจะมีลายไขมันน้อยกว่าเมื่อเทียบกับเนื้อแกะออสเตรเลียที่เลี้ยงด้วยธัญพืช(grain-fed) อย่างไรก็ตาม มักจะมีชั้นไขมันภายนอกที่สามารถทำให้เนื้อชุ่มฉ่ำในระหว่างการทำอาหารและช่วยเพิ่มรสชาติให้เข้มข้นขึ้นได้อีก
โดยสรุปแล้ว ทั้งสายพันธุ์จากออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ผลิตเนื้อแกะที่มีรสชาติดีและมีคุณภาพสูง โดยแต่ละตัวมีลักษณะเฉพาะที่แตกต่างกันซึ่งกำหนดขึ้นจากปัจจัยต่างๆ เช่น อาหารที่ได้รับ สายพันธุ์ วิธีการทำฟาร์ม และภูมิประเทศในภูมิภาค
เนื้อแกะออสเตรเลีย มีทั้งแบบที่เลี้ยงด้วยหญ้า(grass-fed) และที่เลี้ยงด้วยธัญพืช(grain-fed) ถ้าเลี้ยงด้วยหญ้ารสชาติก็จะอ่อนกว่าแบบที่เลี้ยงด้วยธัญพืช ปัจจัยที่ทำให้มีลายไขมันมากเนื่องจากการป้อนอาหารธัญพืช(grain-fed) ทำให้ได้รสชาติที่เข้มข้น ชุ่มฉ่ำ และเนื้อสัมผัสที่เฟิร์มแน่นขึ้นเล็กน้อย เหมาะอย่างยิ่งสำหรับวิธีการทำอาหารที่หลากหลาย ความหลากหลายของสายพันธุ์แกะในออสเตรเลียยังส่งผลต่อรสชาติและเนื้อสัมผัสของแกะที่แตกต่างกันออกไปด้วย
ในทางกลับกัน เนื้อแกะนิวซีแลนด์ส่วนใหญ่แล้วเลี้ยงด้วยหญ้า(grass-fed) นั้นทำให้เนื้อแกะอาจมีรสหวานเล็กน้อยและมีเนื้อที่นุ่ม ความนุ่มของเนื้อเกิดจากอายุการเชือดแกะที่อายุน้อย และแม้ว่ามันอาจมีลายหินอ่อนน้อยกว่า แต่ชั้นไขมันภายนอกที่มากจะยังคงช่วยให้เนื้อมีความชุ่มฉ่ำในระหว่างการทำอาหารอีกด้วย
ไม่ว่าคุณจะชอบเนื้อแกะออสเตรเลียหรือนิวซีแลนด์ ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคล แต่สิ่งหนึ่งที่แน่นอนก็คือ ทั้งสองประเทศนี้ผลิตเนื้อแกะที่ดีที่สุดในโลก และการได้ลองชิมเนื้อแกะจากทั้งสองแห่ง จะยิ่งช่วยให้ตัดสินใจได้มากขึ้นว่าชอบเนื้อแกะที่ไหนมากกว่ากัน