คาเวียร์มีประวัติศาสตร์อันยาวนานและมีความสุขมาหลายศตวรรษ มีมูลค่าที่สูงมากในยุคเปอร์เซียโบราณ (อิหร่านในปัจจุบัน) และถูกเสิร์ฟให้กับราชวงศ์และขุนนาง คาเวียร์เริ่มเป็นที่นิยมในยุโรปในช่วงศตวรรษที่ 18 และ 19 โดยเฉพาะในรัสเซีย ซึ่งกลายเป็นคำที่มีความหมายว่าความหรูหรา ทุกวันนี้ คาเวียร์ยังคงความหรูหราในแวดวงการทำอาหารทั่วโลก เรามารู้จักคาเวียร์ให้มากขึ้นกัน
ประเภทของคาเวียร์
ประเภทคาเวียร์ที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดจะมาจากปลาสเตอร์เจียน ได้แก่ เบลูก้า(Beluga) โอเซตรา(Osetra) และเซฟรูกา(Sevruga)
คาเวียร์ประเภทอื่นๆ ได้แก่ ปลาแซลมอน ปลาเทราต์ และคาเวียร์ปลาแพดเดิลฟิช ซึ่งเป็นทางเลือกที่มีราคาย่อมเยามากกว่า
คุณภาพเกรดของคาเวียร์
เมื่อพูดถึงการคัดเกรดคาเวียร์ มีหลายปัจจัยที่นำมาพิจารณาเพื่อประเมินคุณภาพและมูลค่าของคาเวียร์ ระบบการให้เกรดอาจแตกต่างกันไป เกณฑ์ทั่วไปที่ใช้ในกระบวนการให้คะแนน
ระบบการให้คะแนนอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับผู้ผลิตหรือประเทศต้นทาง โดยปกติแล้วกระบวนการคัดเกรดจะทำโดยผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ ซึ่งจะตรวจสอบและประเมินคาเวียร์อย่างระมัดระวังตามเกณฑ์เหล่านี้
คาเวียร์เกรดสูงมักจะมีราคาที่สูงกว่าเนื่องจากคุณภาพที่เหนือกว่า ในขณะที่คาเวียร์เกรดรองลงมาก็มีคุณภาพดีแต่อาจมีขนาด สี หรือรสชาติที่แตกต่างกันบ้าง การให้เกรดช่วยให้ผู้ซื้อเข้าใจและเลือกคาเวียร์ตามความชอบและงบประมาณได้
การจัดเก็บรักษา
คาเวียร์นั้นเน่าเสียได้ง่ายและควรจัดเก็บอย่างเหมาะสมเพื่อรักษาคุณภาพไว้ ควรเก็บไว้ในส่วนที่เย็นที่สุดของตู้เย็น ประมาณระหว่าง -2 ถึง 0°C (28-32°F) โดยปกติคาเวียร์ที่ยังไม่เปิดสามารถเก็บไว้ได้สองสามสัปดาห์ ในขณะที่ขวดหรือกระป๋องที่เปิดแล้วควรบริโภคภายในสองสามวันถึงหนึ่งสัปดาห์
ข้อแนะนำสำหรับคาเวียร์
ควรหลีกเลี่ยงเครื่องใช้ที่เป็นโลหะเมื่อเสิร์ฟคาเวียร์ เนื่องจากอาจส่งผลต่อรสชาติได้ ควรจะเสิร์ฟคาเวียร์ด้วยช้อนพิเศษที่ทำจากวัสดุที่ไม่เกิดปฏิกิริยา เช่น หอยมุก เขาสัตว์ หรือไม้ และควรจะวางบนจานเสิร์ฟเย็นที่ซ้อนอยู่บนน้ำแข็งหรือเสิร์ฟโดยตรงบนน้ำแข็งเพื่อรักษาคุณภาพ และขอแนะนำให้หลีกเลี่ยงการเคี้ยวคาเวียร์แรงๆ ควรจะปล่อยให้ไข่ค่อยๆแตกป๊อปๆในปากเพื่อซึมซับรสชาติให้อร่อยที่สุด
คาเวียร์ในการทำอาหาร
ไข่ปลาคาเวียร์ขึ้นชื่อเรื่องรสชาติที่เข้มข้น ไม่เพียงแค่อร่อยด้วยตัวมันเองเท่านั้น แต่ยังใช้ร่วมกับการทำอาหารอื่นๆมากมายได้อีกด้วย การจับคู่แบบคลาสสิกเช่น blinis (แพนเค้กรัสเซียขนาดเล็ก), crème fraîche, หัวหอมสับ, ไข่ขาวสับ และเลมอนเป็นแว่นๆ ให้รสชาติและเนื้อสัมผัสที่ตัดกันอย่างลงตัวซึ่งช่วยเพิ่มอรรถรสของคาเวียร์ได้ หรือจะใช้เป็นท็อปปิ้งของอาหาร เช่น พาสต้า ซูชิโรล ออมเล็ต และอาหารทะเลก็ยังได้
ประโยชน์ของคาเวียร์
คาเวียร์เป็นแหล่งที่ดีของกรดไขมันโอเมก้า 3 ซึ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพของหัวใจ การทำงานของสมอง และลดการอักเสบ นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุ ได้แก่ วิตามินบี 12 วิตามินเอ ธาตุเหล็ก และซีลีเนียม ควรรับประทานคาเวียร์ในปริมาณที่พอเหมาะ เนื่องจากก็มีปริมาณโซเดียมสูงเช่นกัน
ชื่อเสียงของคาเวียร์เป็นที่ยอมรับนับถือเป็นพิเศษในโลกของการทำอาหาร ตั้งแต่คาเวียร์เบลูก้า(Beluga) โอเซตรา(Osetra) และเซฟรูกา(Sevruga) ที่ได้รับรางวัล ไปจนถึงตัวเลือกที่เข้าถึงได้มากขึ้น เช่น ปลาแซลมอน ปลาเทราต์ และคาเวียร์ปลาแพดเดิลฟิช มีตัวเลือกมากมายเพื่อให้เหมาะกับความต้องการและงบประมาณที่แตกต่างกัน