ไม่ว่าคุณจะเป็นคนรักสุขภาพ คนรักผลไม้ หรือคนที่มองหาจากธรรมชาติในการเสริมสร้างสุขภาพที่ดี เบอร์รีเหล่านี้รับประกันการผสมผสานที่ลงตัวของรสชาติ คุณค่าทางโภชนาการ และประโยชน์ต่อสุขภาพที่ดีเกินกว่าจะต้านทานได้ วันนี้เราจะมาเจาะลึกถึงประโยชน์ของซูเปอร์เบอร์รี 3 ชนิด ได้แก่ สตรอว์เบอร์รี ราสเบอร์รี และบลูเบอร์รี และเราจะค้นพบว่าทำไมถึงต้องมีในอาหารประจำวัน
สตรอว์เบอร์รี (Strawberries): ถ้าหัวใจก็ต้องสีแดง
สตรอว์เบอร์รีมีสีแดงสดและรูปร่างคล้ายรูปหัวใจนั้นไม่เพียงแต่ให้ความสุขทางประสาทสัมผัสเท่านั้น แต่ยังดีต่อสุขภาพหัวใจอย่างน่าเหลือเชื่ออีกด้วย จากการศึกษาของ Harvard School of Public Health การกินสตรอว์เบอร์รีเป็นประจำสามารถลดความเสี่ยงของโรคหัวใจได้ 32% นี่เป็นเหตุผลหลักเนื่องจากมีปริมาณแอนโธไซยานินสูงซึ่งเป็นฟลาโวนอยด์ที่เป็นตัวการสีแดง
สุดยอดผลไม้ชนิดนี้เป็นแหล่งวิตามินซีชั้นยอด ในความเป็นจริง หนึ่งหน่วยบริโภคให้วิตามินซีมากกว่าส้มประมาณ 28% ซึ่งช่วยในเรื่องสุขภาพผิวและระบบภูมิคุ้มกัน ปริมาณไฟเบอร์และฟรุกโตสก็มีส่วนช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยป้องกันโรคเบาหวานได้อีกด้วย
ราสเบอร์รี (Raspberries): ที่สุดของการต้านอนุมูลอิสระ
ราสเบอร์รีนั้นมีคุณสมบัติโดดเด่นในด้านต้านการออกซิเดชันและต้านการอักเสบ อุดมเต็มไปด้วย ellagitannins ซึ่งเป็นสารประกอบประเภทหนึ่งที่เปลี่ยนเป็นกรดเอลลาจิก (ellagic acid) ในร่างกาย งานวิจัยใน Journal of Agricultural and Food Chemistry ชี้ให้เห็นว่ากรดเอลลาจิกนี้สามารถช่วยต่อสู้กับการอักเสบและลดความเครียดจากอนุมูลอิสระได้เป็นอย่างดี
ราสเบอร์รียังเป็นแหล่งใยอาหารชั้นยอดที่มีมากถึง 8 กรัมต่อถ้วย จะช่วยด้านสุขภาพของลำไส้และช่วยย่อยอาหาร และยังเต็มไปด้วยวิตามินซีและแมงกานีส ซึ่งช่วยเพิ่มระบบภูมิคุ้มกันและการพัฒนาของกระดูกให้แข็งแรงตามลำดับ
บลูเบอร์รี (Blueberries): บลูเบอร์รีเบรนบูสเตอร์ ตัวกระตุ้นสมอง
บลูเบอร์รีมักถูกเรียกว่าเป็น 'อาหารสมอง' เป็นหนึ่งในผลเบอร์รีที่มีสารอาหารหนาแน่นที่สุด สิ่งมหัศจรรย์สีฟ้าเล็กๆเหล่านี้เต็มไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ฟลาโวนอยด์ (flavonoids) ซึ่งได้รับการศึกษาวิจัยจำนวนมาก ว่าสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมองและชะลอความชราของสมองได้
การศึกษาชิ้นหนึ่งจาก National Institutes of Health ชี้ว่าการบริโภคบลูเบอร์รีเป็นประจำสามารถช่วยในเรื่องความจำและการทำงานของสมองในผู้สูงอายุได้ นอกจากนี้ หลักฐานที่เพิ่มเติมบ่งชี้ว่า แอนโธไซยานิน ในบลูเบอร์รีสามารถช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจโดยการลดการออกซิเดชันและการอักเสบได้
การศึกษาอื่นๆจาก Journal of Agricultural and Food Chemistry ชี้ให้เห็นว่าการบริโภคบลูเบอร์รีเป็นเวลา 12 สัปดาห์ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพความจำได้ 16-20% ในผู้สูงอายุที่มีความจำเสื่อมเร็ว
สตรอว์เบอร์รี ราสเบอร์รี และบลูเบอร์รีทั้งสามชนิด เรียกรวมกันว่า Berry Trinity เบอร์รีแต่ละชนิดมีส่วนช่วยในสุขภาพโดยทั้งช่วยการทำงานของหัวใจ กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยด้านสุขภาพผิว และแม้กระทั่งการพัฒนาสมอง
นอกจากนี้ ความสามารถรอบตัวของผลเบอร์รีเหล่านี้ยังไม่ธรรมดา กินเป็นของว่างเพิ่มความสดชื่น ใส่ลงในสมูทตี้ยามเช้า วางลงบนสลัด หรือใช้โรยหน้าบนขนมต่าง สีสันที่สดใส รสชาติที่หวานลงตัว และประโยชน์ต่อสุขภาพที่ผ่านการพิสูจน์แล้ว จะช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่ดี ห่างไกลโรคภัยได้
อ้างอิง
1. Cassidy, A., Mukamal, K.J., Liu, L., Franz, M., Eliassen, A.H., Rimm, E.B. (2013). High anthocyanin intake is associated with a reduced risk of myocardial infarction in young and middle-aged women. Circulation, 127(2), 188-196.
2. Seeram, N.P., Adams, L.S., Zhang, Y., Lee, R., Sand, D., Scheuller, H.S., Heber, D. (2006). Blackberry, black raspberry, blueberry, cranberry, red raspberry, and strawberry extracts inhibit growth and stimulate apoptosis of human cancer cells in vitro. Journal of Agricultural and Food Chemistry, 54(25), 9329-39.
3. Krikorian, R., Shidler, M.D., Nash, T.A., Kalt, W., Vinqvist-Tymchuk, M.R., Shukitt-Hale, B., Joseph, J.A. (2010). Blueberry supplementation improves memory in older adults. Journal of Agricultural and Food Chemistry, 58(7), 3996-4000.